โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ALS คือโรคอะไร?
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) หรือที่เรียกว่า Amyotrophic Lateral Sclerosis เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อแขนและขาอ่อนแรงลง รวมถึงมีปัญหาในการกลืนและพูด โรคนี้มีลักษณะเฉพาะที่เซลล์ประสาทในไขสันหลังและสมองจะค่อยๆ เสื่อมสลายและตายไปในที่สุด จากสถิติทั่วโลก พบว่า ALS มีอัตราการเกิดที่ต่ำ โดยในประชากร 100,000 คน จะพบผู้ป่วยเพียง 4-6 คน โดยมักพบในผู้สูงอายุ อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยอยู่ระหว่าง 40-60 ปี และมีแนวโน้มที่จะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอายุขัยหลังจากเริ่มมีอาการประมาณ 3-4 ปี และมีเพียง 10% เท่านั้นที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 10 ปี อาการเริ่มต้นของโรคจะเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่มือ แขน ขา หรือเท้าข้างใดข้างหนึ่งก่อน เช่น เดินแล้วล้มบ่อย หรือยกแขนไม่ขึ้น เมื่อโรคดำเนินไป อาการจะเริ่มลามไปทั้งสองข้าง และอาจมีอาการกลืนอาหารลำบากและพูดไม่ชัด ผู้ป่วยอาจไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของตัวเองจนกระทั่งอาการหนักขึ้น ทำให้ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาโรคนี้ให้หายขาด แต่มีการใช้ยา Riluzole ที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาในสหรัฐอเมริกา ซึ่งช่วยชะลอการทำลายเซลล์ประสาทได้บ้าง โดยสามารถยืดอายุของผู้ป่วยออกไปได้ประมาณ 3-6 เดือน การรักษาในผู้ป่วย ALS จะเน้นที่การบรรเทาอาการและการดูแลประคับประคอง เช่น การทำกายภาพบำบัด การใช้เครื่องช่วยหายใจ และการให้อาหารทางสายยางหากผู้ป่วยไม่สามารถกลืนได้ การทำกายภาพบำบัดมีความสำคัญมากในผู้ป่วย ALS เนื่องจากช่วยชะลอการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อและป้องกันการเกิดแผลกดทับ การกระตุ้นให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมและออกกำลังกายอย่างเหมาะสมจะช่วยให้มีการส่งสัญญาณประสาทอยู่ตลอด ทำให้ชะลอการทำลายของเซลล์ประสาทได้ ดังนั้น การปรึกษานักกายภาพบำบัดเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคนี้
เรียนรู้เพิ่มเติม